Daily News
หมดช่องเอาผิด! สรรพากร แจงคดีภาษีหุ้นชินคอร์ปสิ้นสุดแล้วตั้งแต่ 31 มี.ค. 55
April 30, 2017หมดช่องเอาผิด! สรรพากร แจงคดีภาษีหุ้นชินคอร์ปสิ้นสุดแล้ว
ตั้งแต่ 31 มี.ค. 55
ความพยายามในการเรียกเก็บภาษีจากการซื้อขายหุ้น บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือชินคอร์ป ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท อินทัช โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท ดูจะล้มเหลว เพราะอายุความจะหมดลงในวันที่ 31 มี.ค. 2561 ในขณะที่กรมสรรพากรเองยืนยันว่า อายุความของคดีนี้หมดไปตั้งแต่ปี 2555 แล้ว
แหล่งข่าวจากกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรคงไม่ดำเนินการใดๆ อีกเกี่ยวกับกรณีการเก็บภาษีการซื้อขายหุ้นในบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือชินคอร์ป ซึ่งปัจจุบันคือ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เพราะเรื่องนี้กรมสรรพากรได้ดำเนินการมาถึงที่สุดแล้ว ซึ่งอายุความของคดีได้สิ้นสุดไปตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค. 2555
ส่วนกรณีที่ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้เสนอให้ใช้อายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่มีอายุความ 10 ปีนั้น ในกรณีเช่นนี้ กรมสรรพากรไม่สามารถดำเนินการให้ได้ เนื่องจากตามหลักกฎหมายแล้ว เมื่อมีกฎหมายเฉพาะในเรื่องการกำหนดอายุความ จะต้องใช้กฎหมายเฉพาะนั้น จะใช้กฎหมายทั่วไป หรือจะใช้กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไม่ได้
ภาพจาก กรุงเทพธุรกิจ
ตามประมวลรัษฎากรของกรมสรรพากร ระบุไว้ว่า อายุความในกรณียื่นภาษีไม่ถูกต้อง มีอายุความ 5 ปี แต่กรณีผู้เสียภาษีไม่ได้ยื่นแบบนั้น มีอายุความ 10 ปี แต่สำหรับกรณีภาษีหุ้นชินคอร์ปนั้น นายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร ได้ทำการยื่นแบบชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปี 2550 แล้ว ดังนั้น อายุความในกรณีนี้จึงอยู่ที่ 5 ปี และหมดอายุความไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค. 2555
ทั้งนี้ ศาลภาษีอากรกลางได้พิพากษาเพิกถอนการประเมินภาษีในคดีหุ้นชินคอร์ปต่อนายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร ซึ่งหลังจากศาลภาษีอากรกลางพิพากษาแล้ว กรมสรรพากรในขณะนั้น มีอธิบดีกรมสรรพากร นายสาธิต รังคสิริ ไม่ดำเนินการยื่นอุทธรณ์ และเสนอให้ นายกรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.คลัง ในสมัยนั้น และอัยการสูงสุด ลงนามในการไม่อุทธรณ์
แหล่งข่าวกล่าวว่า การเสนอให้ขยายอายุการประเมินภาษี ตามมาตรา 3 อัฏฐ แห่งประมวลรัษฎากร ที่เกี่ยวกับการขยายกำหนดเวลาการยื่นภาษี การอุทธรณ์ การเสียภาษีนั้น ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากในมาตรานี้ การขยายระยะเวลาเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เสียภาษี ไม่ใช่เป็นการลงโทษผู้เสียภาษี เช่น กรณีภาษีมินิแบ ที่กรมสรรพากรได้ขยายระยะเวลาการยื่นแบบให้แก่ทางบริษัท เนื่องจากเป็นปัญหาการตีความที่ไม่สอดคล้องกันระหว่างหน่วยงานรัฐ ดังนั้น เพื่อไม่ให้กระทบต่อบริษัทเอกชน กรมจึงได้ขยายระยะเวลาการยื่นแบบให้แก่บริษัท เพราะหากไม่ขยายระยะเวลาการยื่นแบบ ทางบริษัทจะต้องถูกค่าปรับในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เป็นเงินกว่าหมื่นล้านบาท ขณะที่เนื้อภาษีที่ต้องจ่ายจริงเพียงไม่กี่พันล้านบาท
ส่วนการที่จะขอใช้มาตรา 61 แห่งประมวลรัษฎากรนั้น คงไม่สามารถใช้มาตรานี้มาดำเนินคดีนี้ได้อีก เนื่องจาก ในช่วงที่คดีนี้อยู่ในชั้นการพิจารณาของศาลภาษีนั้น กรมสรรพากรได้ใช้มาตรานี้ เพื่อระบุว่านายพานทองแท้ และพินทองทา เป็นผู้ที่ลงนามในเอกสารสำคัญ ที่แสดงความเป็นเจ้าของทรัพย์สินคือหุ้นชินนั้นแล้ว แต่ศาลภาษี ยกประเด็นเรื่องที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ระบุว่า หุ้นทั้งหมด รวมหุ้นที่เป็นกรณีพิพาททางภาษีนี้ด้วย เป็นของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ดังนั้น จึงไม่สามารถยื่นฟ้องซ้ำในคดีเดียวกันนี้ได้อีก
Fr: http://www.topicza.com/news36834.html
0 comments